
VLOG EP675: เวลาทำงาน Sound Engineer เขาฟังอะไร ? ต่างกับนักดนตรีอย่างไร ?
เกือบ 50% ของจำนวนงานที่ทำ “โต ติงต๊อง” จะถูกถามว่าการปล่อยเสียงทดสอบระบบแปลก ๆ ซ่า
เกือบ 50% ของจำนวนงานที่ทำ “โต ติงต๊อง” จะถูกถามว่าการปล่อยเสียงทดสอบระบบแปลก ๆ ซ่า
ถ้าคุณลองฟังคำพูดของ “กูรู” ระบบเสียงเกี่ยวกับวิธีแก้ไมค์หอนจะได้รับคำตอบแบบร้อยแปดพันเก้า เพราะสาเหตุคือเสียงจากลำโพงถูกรับโดยไมโครโฟนและวนอยู่อย่างนั้นจนมีความดังสูงขึ้น ดังนั้นเทคนิคใดที่สามารถลดหรือตัดการวนของเสียงได้ ก็ถือว่าถูกต้องเสมอ แต่ในโลกนี้ทุกสิ่งอย่างล้วนมีผลข้างเคียงซึ่งการแก้ไมค์หอนด้วยการ “Pan”
เวลา Sound Engineer ทำ Ear-Training วิธีที่ดีที่สุดคือต้องอยู่ในสถานที่ ๆ สามารถฟังเสียงต่าง
“พี่รู้สึกว่า Live Streaming ที่พี่ทำประจำภาพก็สวยเสียงก็ดีคมชัด แต่ทำไมมันไม่ค่อยดึงดูดให้คนดูอย่างต่อเนื่อง ?” เป็นคำถามที่ “โต
VLOG ตอนนี้ “โต ติงต๊อง” ทำขึ้นเพื่อมอบแด่ลูกค้าและคนที่กำลังหาซื้อไมค์ลอย (ไมโครโฟนไร้สาย) หลังจากลักลอบใช้ของความถี่เก่ามาเป็นปีแล้วถูกรบกวนจนแทบใช้ต่อไม่ได้ บางคนกลัวว่าต้องซื้อใหม่หมดคงไม่มีเงินเพราะของดี
หลายครั้งที่ “โต ติงต๊อง” อธิบายถึงขั้นตอนการฝึกฟัง (Ear-Training) สำหรับ Sound Engineer
เวลาพูดถึง Limiter กับคนทำงานเสียงมืออาชีพล้วนได้คำตอบเดียวกันเสมอคือ “ใช้กันไม่ให้ความดังเสียงเกินกว่าที่กำหนด” หรือ “ใช้กันลำโพงขาด” แต่ความจริง Limiter
ปัญหาเรื่องคุณภาพเสียงเบสจากลำโพง Subwoofer เป็นสิ่งน่าปวดหัวสำหรับเจ้าของมาก เพราะเสียงเบสส่วนใหญ่จะเดินทางออกจากตู้ Subwoofer ทุกทิศแบบ 360 องศา
ปรกติเวลา “โต ติงต๊อง” ไปรับจ้างปรับจูนระบบเสียงงานแสดงสด สิ่งแรกที่จะทำคือจูนให้มีการตอบสนองความถี่ที่ Flat (เป็นธรรมชาติ) ที่สุดไว้ก่อนเพื่อดูศักยภาพของระบบโดยรวม
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ลูกค้าจะต้องการ Flexibility (ความยืดหยุ่น) ในการใช้งานระบบไฟฟ้าใด ๆ และระบบเสียงก็เช่นกัน หลายครั้งที่ “โต
เวลาที่ “โต ติงต๊อง” ได้รับมอบหมายให้ออกแบบระบบเสียงสำหรับประกาศ จะต้องถามคำถามที่ลูกค้ารู้สึกฉงนงงงวยมากที่สุดคือ… “เสียงประกาศเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเสียส่วนใหญ่ครับ ?” แน่นอนล่ะว่าคำตอบที่ได้รับมักเป็น
สิบกว่าปีที่แล้วตอนที่ “โต ติงต๊อง” ทำงานเป็นเด็กยกของ Part-Time จนถึง Freelance Sound